อาชญากรรมคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ประเภทต่างๆ
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ (Cyber-Crime)เป็นการกระทำที่ผิด
กฎหมายโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อโจมตีระบบคอมพิวเตอร์และ
ข้อมูลที่อยู่บนระบบดังกล่าวส่วนในมุมมองที่กว้างขึ้น “อาชญากรรมที่เกี่ยว
เนื่องกับคอมพิวเตอร์” หมายถึงการกระทำที่ผิดกฎหมายใดๆซึ่งอาศัยหรือ
มีความเกี่ยว
เนื่องกับระบบคอมพิวเตอร์หรือเครือข่าย อย่างไรก็ตาม อาชญา
กรรมประเภทนี้ไม่ถือเป็นอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์โดยตรง
ในการประชุมสหประชาชาติครั้งที่ 10
ว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรม
และ
การปฏิบัติต่อผู้กระทำผิด (The Tenth United
Nations Congress on the Prevention of
Crime and the Treatment of Offenders) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุง
เวียนนา เมื่อวันที่ 10-17 เมษายน 2543 ได้มีการจำแนกประเภทของอาชญา
กรรมทางคอมพิวเตอร์ โดยแบ่งเป็น 5 ประเภท คือ การเข้าถึงโดยไม่ได้
รับอนุญาต,
การสร้างความเสียหายแก่ข้อมูลหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์,
การก่อกวนการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์หรือเครือข่าย, การยับยั้งข้อมูล
ที่ส่งถึง/จากและภายในระบบหรือเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และการ
จารกรรมข้อมูลบนคอมพิวเตอร์
โครงการอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์และการโจรกรรมทรัพย์สิน
ทางปัญญา
(Cyber-Crime and Intellectual Property Theft) พยายามที่
จะเก็บรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูล และค้นคว้าเกี่ยวกับอาชญากรรมทาง
คอมพิวเตอร์ 6 ประเภท ที่ได้รับความนิยม ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อ
ประชาชนและผู้บริโภค
นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับ
ขอบเขตและความซับซ้อนของปัญหารวมถึงนโยบายปัจจุบันและความ
พยายามในการปัญหานี้
อาชญากรรม 6 ประเภทดังกล่าวได้แก่
1.การเงิน – อาชญากรรมที่ขัดขวางความสามารถขององค์กรธุรกิจใน
การทำธุรกรรม อี-คอมเมิร์ซ(หรือพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์)
2.การละเมิดลิขสิทธิ์ – การคัดลอกผลงานที่มีลิขสิทธิ์ ในปัจจุบัน
คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและอินเทอร์เน็ตถูกใช้เป็นสื่อในการก่ออาชญากรรม
แบบเก่าโดยการ
โจรกรรมทางออนไลน์หมายรวมถึงการละเมิดลิขสิทธิ์ ใดๆที่
เกี่ยวข้องกับการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อจำหน่ายหรือเผยแพร่ผลงานสร้างสรรค์
ที่ได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์
3.การเจาะระบบ – การให้ได้มาซึ่งสิทธิในการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์
หรือเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และในบางกรณีอาจหมายถึงการใช้สิทธิ
การเข้าถึงนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้การเจาะระบบยังอาจรองรับ
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
ในรูปแบบอื่นๆ (เช่น การปลอมแปลง การก่อการร้าย ฯลฯ)
4.การก่อการร้ายทางคอมพิวเตอร์ – ผลสืบเนื่องจากการเจาะระบบโดยมี
จุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความหวาดกลัว
เช่นเดียวกับการก่อการร้ายทั่วไปโดยการ
กระทำที่เข้าข่าย การก่อการร้ายทางอิเล็กทรอนิกส์
(e-terrorism) จะเกี่ยว
ข้องกับการเจาระบบคอมพิวเตอร์
เพื่อก่อเหตุรุนแรงต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน
หรืออย่างน้อยก็มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความหวาดกลัว
5.ภาพอนาจารทางออนไลน์ – ตามข้อกำหนด 18 USC 2252
และ 18 USC 2252A การประมวลผลหรือการเผยแพร่ภาพอนาจารเด็กถือเป็นการ
กระทำที่ผิดกฎหมาย และตามข้อกำหนด 47 USC 223การเผยแพร่ภาพ
ลามกอนาจารในรูปแบบใดๆ แก่เยาวชนถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย
อินเทอร์เน็ตเป็นเพียงช่องทางใหม่สำหรับอาชญากรรม แบบเก่า อย่างไรก็ดี
ประเด็นเรื่องวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการควบคุมช่องทางการสื่อสารที่ครอบคลุม
ทั่วโลกและเข้าถึงทุกกลุ่มอายุนี้ได้ก่อให้เกิดการถกเถียงและการโต้แย้งอย่าง
กว้างขวาง
6.ภายในโรงเรียน – ถึงแม้ว่าอินเทอร์เน็ตจะเป็นแหล่งทรัพยากรสำหรับ
การศึกษาและสันทนาการ แต่เยาวชนจำเป็นต้องได้รับทราบเกี่ยวกับวิธีการ
ใช้งานเครื่องมืออันทรงพลังนี้อย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ โดยเป้า
หมายหลักของโครงการนี้คือ เพื่อกระตุ้นให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับข้อกำหนด
ทางกฎหมาย สิทธิของตนเอง และวิธีที่เหมาะสมในการป้องกันการใช้อิน
เทอร์เน็ตในทางที่ผิด
VIDEO